วิธีการผลิต จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ไว้ใช้งานด้านการเกษตร
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง คือ จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติทั้งในดินและน้ำ ทำหน้าที่กำจัดของเสีย ก๊าซและสารพิษต่างๆ
จุลินทรีย์สีแดงหรือแบคทีเรียสังเคราะห์แสง (PHOTOSYNTHETIC BACTERIA) ใช้ในงานเกษตรกรรมต่างๆ อุตสาหกรรม หลากหลาย ใช้กันแพร่หลายไปทั่วโลกมานานกว่า 50 ปี โดยเฉพาะญี่ปุ่นให้ความส าคัญกับจุลินทรีย์ตัวนี้ ได้ให้ประชาชน ทุกๆ วงการรู้และเข้าใจในประโยชน์ของจุลินทรีย์นี้อย่างกว้างขวาง
ประโยชน์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
- ช่วยตรึงไนโตเจนในดิน เพิ่มไนโตเจนให้กับพืช
- เร่งการเจริญเติบโต ทำให้พืชแข็งแรงแล้วโตเร็วเป็น 3 เท่า
- เมื่อใช้ทางดินทำให้รากพืชแข็งแรงและหาอาหาร ได้ดีขึ้น ใช้กับนาข้าว ช่วยเร่งการแตกกอของข้าว
- ช่วยในการย่อยธาตุอาหารและวัตถุอินทรีย์ในดิน เพื่อให้พืชดูดซึมไป ใช้ได้อย่างง่ายดาย
- ป้องกันพืชโดยการทำลายจุลินทรีย์ไม่ดีในดิน ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพืช
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
- ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
ส่วนผสมทั้งหมดนี้สามารถทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้ในปริมาณที่ ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยลงไปได้ประมาณ 1 กระสอบ เลยทีเดียว ต่อไปเราจะมาเริ่มวิธีทำกัน ซึ่งการทำนั้นก็ไม่ยาก
วิธีผสม
- ตีไข่ใส่ถ้วยให้ละเอียดตามปริมาณที่ต้องการผสม
- นำน้ำใส่ขวด 1 ใน 5 ส่วนของขวดขนาด 6 ลิตร
- ตักไข่ใส่ 3 ช้อนโต๊ะ เขย่าให้เข้ากัน
- ใส่หัวเชื้อ 1 ลิตร
- เติมน้ำให้เกือบเต็ม (ห่างจากปากขวด ประมาณ 1 นิ้ว) เหลือพื้นที่ให้มีอากาศ เขย่าขวดเบาๆ
- นำไปตากแดดหรือในที่มีแสงแดดรำไร ไม่จำเป็นต้องโดนทั้งวันประมาณ 7-15 วันสีจะเข้มขึ้น สามาถนำไปใช้งานได้
** ถ้าจะเก็บไ ว้เป็นหัวเชื้อกวรตากแดดไว้ประมาณ 15 วันขึ้นไป หรือ เก็บไว้ 1 เดือนแล้วเติมอาหาร รอให้สีเข้มมากๆ แล้วนำมาขยาย หากต้องการขยายทีละมากๆ ควรใช้เครื่องปั่นไข่ ผสมส่วนผสมทั้งหมดตามอัตราส่วน หัวเชื้อจุลินทรีย์เคราะห์แสง 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วน และอาหาร(ไข่) ให้คำนวนจากหัวเชื้อ+น้ำ : อาหาร ในอัตราส่วน 200 : 1 ในภาชนะใหญ่ๆรวมกันก่อน แล้วกรองหัวเชื้อและไข่ด้วยผ้าหรือตะแกรง ก่อนกรอกใส่ขวด นำไปตากแดคทุกขวดจะแดงเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน
วิธีการใช้งานกับพืช
สัดส่วนการใช้มีมากมายหลายอัตราส่วนการ ใช้งาน แต่ที่ง่ายที่สุดคือ เทลงไปในน้ำเปล่าในภาชนะขนาดใดก็ได้ที่จะใช้ผสม สังเกตว่าน้ำเริ่มเปลี่ยนสีเข้มขึ้นเป็นชมพูจางๆ เป็นอันนำไปใช้ได้
จากการทดลองนำไปใช้งานมาและรวมรวมผลจากกลุ่มผู้ใช้ การรดหรือฉีกลงที่ โคนต้นจะได้ผลกับพืชมากที่สุด เพราะเขาคือแบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ใช่ฮอร์ โมนหรือสารอาหารและอาศัยอยู่ในดิน
ระยะเวลาที่ต้องรดหรือฉีดพ่น
ทุก 7 วัน/ครั้ง หรือ 14 วัน/ครั้ง ก็ได้ ให้สังเกตว่าดินบริเวณที่เราปลูกพืชนั้นมีความชื้นที่เหมาะสมหรือไม่ ไม่แห้งไป ไม่เปียกไป เพร าะ PSB และแบคทีเรียทั่วๆ ไปจะอาศัยและมีชีวิตได้ดีในดินที่มีความชื้น เปียกพอเหมาะ ถ้าชื้นเปียกกำลังดี ก็ 14 วัน/ครั้ง หรือถ้า แห้ง ก็ถี่ขึ้น
การนำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปใช้งานด้านการเกษตร,พืช
สำหรับการเพาะปลูกข้าว
ดินบริเวณรากข้าวในระยะข้าวตั้งท้อง จะมีสภาวะแบบไม่มีออกซิเจน ทำให้แบกที่เรียที่ในกลุ่มแอนแอ-โร บิคแบคที่เรียเจริญได้ดี สร้างก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ขึ้นมา ทำให้มีผลไปขับยั้งกระบวนการสร้างเมตาโบลิซึมของรากข้าวซึ่งเป็นพิษต่อราก แต่เมื่อนำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงมาใส่ลงในดินในระยะ เวลาดังกล่าว จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง จะเปลี่ยนไฮโดรเจนซัลไฟด์ ให้อยู่ในรูปสารประกอบซัลเฟอร์ ที่ไม่เป็นพิษต่อราก จึงมีผลให้รากของต้นข้าวเจริญงอกงามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและลักษณะของต้นข้าวก็มีความแข็งแรง
บทความอื่นที่น่าสนใจ