บ้านป่าบงเปียง สัมผัสทุ่งนาสีเขียว อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

บ้านป่าบงเปียง สัมผัสทุ่งนาสีเขียว อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

บ้านป่าบงเปียง

บ้านป่าบงเปียง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ บ้านป่าบงเปียงเป็นที่รู้จักกันดีจากทุ่งนาขั้นบันไดอันงดงามที่ทอดยาวไปตามเนินเขาสูง ท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อน บ้านป่าบงเปียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์และวัฒนธรรมท้องถิ่น




บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศจึงเย็นสบายตลอดทั้งปี หมู่บ้านมีประชากรประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าว ข้าวโพด และพืชผักต่างๆ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมบ้านป่าบงเปียงคือช่วงฤดูฝน (กรกฎาคม-ตุลาคม) เมื่อทุ่งนากำลังเขียวขจี ในช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) นาข้าวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง

บ้านป่าบงเปียง

บ้านป่าบงเปียงมีที่พักให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่เป็นโฮมสเตย์ที่เปิดโดยชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่พักส่วนใหญ่ไม่มีไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ นักท่องเที่ยวจึงจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

กิจกรรมที่น่าสนใจที่สามารถทำได้เมื่อมาเยือนบ้านป่าบงเปียง ได้แก่ การเดินชมทุ่งนาขั้นบันได การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก การเที่ยวชมหมู่บ้านและวิถีชีวิตของชาวบ้าน การเดินป่าไปยังจุดชมวิวต่างๆ

ช่องทางการเดินทางไปยังที่ บ้านป่าบงเปียง

ซึ่งที่อยู่นั้นก็จะเป็นทางด้าน ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และพิกัดก็ตามนี้เลย https://goo.gl/maps/jWGqT4YCZioYQ9517 คุณนั้นสามารถติดต่อได้ทุกวันในเวลาราชการโดยตรง

ที่มา : เพจ  บ้านดอย โฮมสเตย์ บ้านป่าบงเปียง




บทความที่เกี่ยวข้อง

10 เคล็ดลับ เลิกสูบบุหรี่ แบบง่ายๆ

10 เคล็ดลับ เลิกสูบบุหรี่ แบบง่ายๆ

เลิกสูบบุหรี่

สำหรับผู้ที่ต้องการ เลิกสูบบุหรี่ คุณอาจไม่รู้ว่าในแต่ปีมีคนไทยเลิกสุบบุทรี่ได้มากกว่า 200,000 คนหรือโดยเฉลี่ยมีผู้ เลิกสูบบุหรี่ วันละ 600 คน จากสถิติพบว่า ร้อยละ 80 ของผู้ที่หยุดสูบบุหรี่สามารถเลิกได้ด้วยตนเองโดยใช้วิธีหยุดสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดและต้องมีการเตรียมตัวที่ ดี

ดังนั้นเพื่อให้คุณสามารถลิกสูบบุหรี่ด้วยตนเองได้สำเร็จ 10 เคล็ดลับต่อไปนี้ คือวิธีการปฏิบัติอย่างง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อการเลิกสูบบุหรี่

1 ขอคำปรึกษา

เพื่อให้คุณมีแนวทางในการเลิกสูบบุหรี่คุณอาจโทรศัพท์เพื่อขอคำแนะนำในการเลิกสูบบุหรี่ได้ที่ ควิทไลน์ หมายเลข 1600หรือขอคำปรึกษาจากคนที่คุณรู้จักที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จมาแล้ว

2 หากำลังใจ

คุณควรบอกให้คนใกล้ชิดได้ทราบถึงความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่ เพราะกำลังใจจากคนรอบข้างจะช่วยให้คุณมีความพยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่ให้ได้เพื่อคนที่คุณรัก

3 เป้าหมายที่อยู่ข้างหน้า

คุณควรวางแผนการปฏิบัติตัวในระหว่างการเลิกสูบบุหรี่โดยกำหนดวันที่จะลงมือเลิกสูบบุหรี่ อาจเลือกเอาวันสำคัญต่างๆ ของครอบครัว เช่น วันเกิดตัวเอง วันครบรอบแต่งงานหรือวันเกิดลูก แต่ทั้งนี้ไม่ควรกำหนดวันที่ห่างไกลเกินไปเพราะคุณอาจหมดไฟเสียก่อน

4 ไม่รอช้า…ลงมือ

คุณควรเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยการทิ้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ให้หมดเตรียมผลไม้หรือขนมขบเคี้ยวที่ไม่หวานหรือไม่ทำให้อ้วนไว้ เพื่อช่วยในการลดความอยากสูบบุหรี่ รวมทั้งปรับเปลี่ยนกิจกรรมที่คุณมักทำร่วมกับการสูบบุหรี่ เช่น อ่านหนังสือแทนการสูบบุหรี่ระหว่างเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ กินผลไม้หรือลุกไปจากโต๊ะอาหารทันที ที่กินอาหารเสร็จ หรือแปรงฟันทุกครั้งหลังกินอาหาร เพื่อลดความอยากสูบบุหรี่หลังอาหาร

5 ถือดำามั่น…ไม่หวั่นไหว

เมื่อถึงวันลงมือ ขอให้คุณตื่นนอนด้วยความสดชื่น บอกตัวเองว่า คุณกำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองและคนใกล้ชิด เมื่ออยากสูบบุหรี่ก็ขอให้คุณทบทวนถึงเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่ ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ล้างหน้า ดื่มน้ำ อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ไม่สูบบุหรี่ หรือเล่นกับลูกให้มากขึ้น ก็จะช่วยให้คุณผ่านพ้นความอยากสูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น

6 ห่างไกล สิ่งกระตุ้น

ในระหว่างนี้ ขอให้คุณหลีกเสี่ยงกิจจกรรมที่จะทำให้คุณอยากสูบบุหรี่เช่น ถ้าเคยดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แล้วต้องสูบบุหรี่ด้วยก็ควรงดดื่มในช่วงนี้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางคนสูบบุหรี่ด้วย

7 ไม่หมกมุ่น ดวามเดรียด

เมื่อรู้สึกเครียดให้หยุดพักสมองสักครู่ คลายความเครียดด้วยการพูดคุยกับคนอื่นๆ หรือหนังสือการ์ตูนขำขันมาไว้อ่านบ้างก็ได้ พึงระลึกเสมอว่า มีคนไม่สูบบุหรี่อีกมากที่คลายเครียดได้โดยไม่ต้องสูบบุหรี่

8 เจียดเวลา ออกกำลังกาย

คุณควรจัดเวลาออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยวันละ 15 -20 นาที เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุมน้ำหนักที่อาจเพิ่มขึ้นแล้วยังทำให้สมองปลอดโปร่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจและปอด ถ้าไม่มีเวลาก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องทุ่นแรงต่างๆ เช่น กดลิฟต์ให้ต่ำกว่าชั้นที่ต้องการ 1 ชั้น เพื่อที่คุณจะได้เดินออกกำลังกายบ้าง

9 ไม่ท้าทาย บุหรี่

อย่าคิดว่าลองสูบบุหรี่บ้างเป็นครั้งคราวคงไม่เป็นไรเพราะการทดลองสูบบุหรี่เพียงมวนเดียว อาจหมายถึงการหวนคืนไปสู่ความเคยชินเก่าๆ อีก คุณมาไกลมากแล้วอย่าปล่อยให้ตัวเองถอยหลังลงคลองอีกเลย

10 หากต้องเริ่มต้นใหม่อีก อย่าท้อแท้

หากต้องการเริ่มต้นใหม่อีกที่ ก็อย่าท้อ ถ้าคุณหันกลับไปสูบบุหรี่อีกนั่นไม่ได้หมายถึงโลกได้ล่มสลายแล้ว ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนล้มเหลวอย่างน้อยคุณก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับปรุงตัวเองในคราวต่อไป ขอให้ถือว่าคุณอาจพ่ายแพ้ในบางสมรภูมิ แต่คุณจะเป็นผู้ชนะสงครามในที่สุด ขอเพียงพยายามต่อไป จงเตรียมตัวให้พร้อม กำหนดวันที่จะหยุดและหยุดต่อไปจนตลอดกาล

ที่มา มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่  http://www.ashthailand.or.th. http://www.smokefreezone.or.th




บทความที่น่าสนใจ

วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน อ.แม่แตง เชียงใหม่ วัดงามล้ำค่าด้วยสถาปัตยกรรมไทย

วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน อ.แม่แตง เชียงใหม่ วัดงามล้ำค่าด้วยสถาปัตยกรรมไทย

วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน

วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน





วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน หรือ วัดบ้านเด่น เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ วัดมีเนื้อที่ 80 ไร่ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เดิมชื่อ วัดหรีบุญเรือง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2437 ตั้งเด่นบนเนินเตี้ย ๆ เห็นได้แต่ไกล ภายใต้เนินนั้นเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ จึงเรียกกันว่า “วัดบ้านเด่น” ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2437 ครูบาเทือง นาถสีโล เจ้าอาวาสได้ทำการบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ ในลักษณะสถาปัตยกรรมไทยล้านนา จากอีกแหล่งข้อมูลระบุว่าชื่อ วัดเด่น แต่เมื่อครูบาเทืองมาอยู่ก็มีต้นโพธิ์ขึ้นมา ทางเหนือเรียกว่า “เก๊าสะหลี” ท่านเห็นว่าชื่อเป็นมงคลดี อีกทั้งที่ตั้งวัดอยู่ในเขตเมืองเก่าสมัยโบราณที่ชื่อว่า เมืองแกน จึงเป็นที่มาของชื่อวัด ภายในวัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน มีเสนาสนะ ได้แก่ อุโบสถ หอไตร หอกลอง วิหารเสาอินทขิล กุฏิไม้สักทองทรงล้านนา พระวิหาร พระสถูปเจดีย์ โดยครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดหัวคง ตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับนิมนต์จาก ครูบาไชยา วัดป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นประธานในการก่อสร้างศาสนสถานและศาสนสมบัติทั้งหมด

วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน

วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน

ที่มารูปภาพ : เชียงใหม่นิว

วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน

ที่มารูปภาพ : เชียงใหม่นิวส์

ปัจจุบันวัดบ้านเด่น เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวมาแวะชมเป็นจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในโปรแกรมทัวร์ของชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเชียงใหม่

ที่อยู่ : เลขที่ 119 หมู่ 8 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 50150
เวลาทำการ : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม
พิกัด : https://goo.gl/maps/pZu8gdu91DVX7p1J6
การเดินทาง

ที่มารูปภาพ : เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่




บทความที่เกี่ยวข้อง

วัดภูทอก จ.บึงกาฬ มนต์เสน่ห์จากความศรัทธา

วัดภูทอก จ.บึงกาฬ มนต์เสน่ห์จากความศรัทธา

วัดภูทอก

วัดภูทอก


ภูทอก เป็นภูเขาโดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกล มีทั้งภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย ภูทอกน้อยเป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร ( วัดภูทอก ) บันไดที่ขึ้นสู่ยอดภูทอกนี้เปรียบเสมือนเส้นทางธรรมที่น้อมนำสัตบุรุษให้พ้นโลกแห่งโลกียะสู่โลกแห่งโลกุตระหรือโลกแห่งการหลุดพ้นด้วยความเพียรพยายามและมุ่งมั่น ภูทอกยังคงเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและปฏิบัติศาสนกิจของชุมชน บันไดขึ้นภูทอกแบ่งออกเป็น 7 ชั้น



วัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ วัดภูทอก ตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐจึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ถ้ำบนภูทอกกับพระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาชาวบ้านคำแคนเห็นพระอาจารย์จวนธุดงภ์มาอยู่ที่ภูทอกจึงพร้อมใจกันอาราธนาให้สร้างวัดขึ้นที่ภูทอก

วัดภูทอก

วัดภูทอก

สถานที่กราบไหว้ระหว่างทางขึ้น

วัดภูทอก

ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก | Facebook ลุง นักเดินทาง , Pongsiri Thammarat, อรัญญา ฤทธิเดช


บทความที่เกี่ยวข้อง

พญาเต่าภูกุ้มข้าว วัดสักกะวัน สงบ ร่มรื่น สวยงาม จังหวัดกาฬสินธุ์

พญาเต่าภูกุ้มข้าว วัดสักกะวัน สงบ ร่มรื่น สวยงาม จังหวัดกาฬสินธุ์

พญาเต่าภูกุ้มข้าว


ภูกุ้มข้าว หรือ วัดสักกะวัน อยู่ห่างจากตัวจังหวัดกาฬสินธุ์ ไปทางทิศเหนือเป็นระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร การเข้าถึงพื้นที่ทำได้โดยใช้เส้นทางหลวงสาย 227 (กาฬสินธุ์-สหัสขันธ์-คำม่วง-วังสามหมอ-พังโคน) ก่อนถึงตัวอำเภอสหัสขันธ์ประมาณ 3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่วัดสักกะวันตรงข้างโรงเรียนสหัสขันธ์ศึกษา ไปเป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร จะถึงแหล่งซากไดโนเสาร์ ภูกุ้มข้าวเป็นแหล่งไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย

พญาเต่าภูกุ้มข้าว

โดยพบกระดูกไดโนเสาร์เกือบทั้งตัว กองรวมอยู่กับกระดูกไดโนเสาร์กินพืชพันธุ์ต่าง ๆ อีก 2-3 ชนิด กระดูกทั้งหมดอยู่ในชั้นหินที่วางตัวอยู่บนไหล่เขา รูปร่างคล้ายฝาชี ในระดับความสูงทางด้านทิศตะวันตก 200 เมตร และระดับความสูงทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 240 เมตร อาคารคลุมหลุมขุดค้นมีขนาดประมาณ 700 ตารางเมตร คลุมหลุมขุดค้นพื้นที่ 280 ตารางเมตร ไว้ภายใน และได้ก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ภูกุ้มข้าวขนาด 8,800 ตารางเมตร ในพื้นที่ติดกัน 1 หลัง เพื่อเป็นสถานที่สำหรับค้นคว้าศึกษาวิจัย ของนักธรณีวิชาการจากทั่วโลก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด พิพิธภัณฑ์สิรินธร หรือพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว เป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับ พระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า “พิพิธภัณฑ์สิริธร”




การจัดแสดงภายในอาคารแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

  • ส่วนที่ 1 การกำเนิดโลก
  • ส่วนที่ 2 การกำเนิดของสิ่งมีชีวิตซึ่งรวมถึงไดโนเสาร์ จนถึงการกำเนิดมนุษย์
  • ส่วนที่ 3 เป็นนิทรรศการหมุนเวียน

พญาเต่าภูกุ้มข้าว

พญาเต่าภูกุ้มข้าว

พญาเต่าภูกุ้มข้าว

ขอบคุณที่มารูปภาพสวยๆ : สายันต์ – ก้อยเพรชรัตน์




บทความที่เกี่ยวข้อง

เขื่อนลําปาว จุดชมวิวสวยพักผ่อนยามเย็น จังหวัดกาฬสินธุ์

เขื่อนลําปาว จุดชมวิวสวยพักผ่อนยามเย็น จังหวัดกาฬสินธุ์

เขื่อนลำปาว

เขื่อนลําปาว


เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่และแหล่งชื่อท่องเที่ยวชื่อดังของกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ในอำเภอสหัสขันธ์, อำเภอคำม่วง, อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ห่างจากจังหวัดกาฬสินธุ์ประมาณ 36 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2506 สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2511 เพื่อปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยางที่บ้านหนองสองห้อง ตำบลลำปาว อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ทำให้เกิดอ่างเก็บน้ำแฝดทางด้านเหนือเขื่อน จึงได้ขุดร่องเชื่อมระหว่างอ่างทั้งสองสร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ
เขื่อนลำปาว
ปัจจุบัน เขื่อนลำปาวเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีหาดดอกเกด อยู่ริมฝั่งเขื่อนลำปาวทางด้านทิศตะวันออก ของเรือนรับรองโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เป็นหาดเนินดินลดหลั่นลงจรดถึงเขื่อน มีบริเวณกว้างขวางพอสมควร ได้รับการ ปรับปรุงให้เป็น ที่พักผ่อนโดยจัดศาลาพักร้อนซุ้มดอกเห็ด เหตุที่ได้ชื่อว่า “หาดดอกเกด” ก็เพราะมีต้น”การะเกด” ซึ่งเป็นไม้พื้นเมือง ปลูกปะปนกับต้นไม้อื่นเป็นกลุ่มๆ เมื่อเวลาออกดอกจะส่งกลิ่นหอม

ข้อมูล เขื่อนลําปาว กาฬสินธุ์

  • ที่อยู่ : ตำบลลำคลอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/g7PjAGafBEkXq5dr6
  • เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน

ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก  Facebook/สายันต์- ก้อย เพชรรัตน์




บทความที่เกี่ยวข้อง

วัดวังคำ สถาปัตยกรรมล้านช้าง อันซีนใหม่ จังหวัดกาฬสินธุ์

วัดวังคำ สถาปัตยกรรมล้านช้าง อันซีนใหม่ จังหวัดกาฬสินธุ์

วัดวังคำ

วัดวังคำ




ประวัติ

วัดวังคำเป็นวัดที่เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ช่วงปี 2539 อาคาร และงานสถาปัตยกรรมต่างๆ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสุดยอดสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณ ในแทบลุ่มแม่น้ำโขง สถาปัตยกรรมที่โด่นเด่นของยุคนี้ ที่ทุกคนจำได้ดีก็จะเป็นวัดเชียงทอง ในเมืองหลวงพระบาง ที่ถือว่าเป็นสุดยอด พอได้มาเห็นวัดวังคำ ก็ต้องบอกว่าสวยมาก อาคารโบสถ์นั้น เป็นอาคารที่มีหลังคามุข 3ชั้น มีฉัตรตรงกลาง 9 ยอด หลังคาโค้งยาวลงมาสวยงามมาก

วัดวังคำ
ลักษณะเด่น

สิมหลังใหม่มีหน้าตาคล้ายกับวัดเชียงทอง ในเมืองมรดกโลก หลวงพระบางยังไงยังงั้น ซึ่งพระครูสังวรสมาธิวัตร (จรัญ ขันติปาโล) เจ้าอาวาสวัดและเป็นผู้ก่อตั้ง ออกแบบสิมหลังใหม่ด้วย บอกว่า วัดนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2539 จากกุฏิเล็กๆ ศาลาหลังเล็กๆ ก็ต่อเติม ขยับขยายมาเรื่อยจนปัจจุบันมีเนื้อที่ราว 8 ไร่ รวมถึงก่อสร้างสิมใหม่ ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจมาจากวัดเชียงทอง แห่งนครหลวงพระบาง นับตั้งแต่ที่ได้ไปเห็นครั้งแรก ก็ใช้วิธีจดจำแล้วนำมาบอกกล่าว ให้ช่างทำออกมา ส่วนที่เลือกสร้างตามแบบศิลปะล้านช้าง โดยยึดวัดเชียงทองเป็นต้นแบบนั้น ก็เพราะความชอบส่วนตัว อีกทั้งวัดเชียงทองได้ชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมล้านช้างที่งดงามที่สุด ประกอบกับ เขาวงเป็นถิ่นผู้ไทที่ผูกพันอยู่กับลาวที่มีศิลปะล้านช้างเป็นเอกลักษณ์ จึงลงตัวในรูปแบบที่เห็น

วัดวังคำ

วัดวังคำ

ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก | Facebook  Our a way เส้นทางของเรา

ข้อมูลเพิ่มเติม


บทความที่เกี่ยวข้อง

เที่ยว!! วัดถ้ำผาแด่น อันซีนวัดสวยชมประติมากรรมหินแกะสลัก จังหวัดสกลนคร

เที่ยว!! วัดถ้ำผาแด่น อันซีนวัดสวยชมประติมากรรมหินแกะสลัก จังหวัดสกลนคร


วัดถ้ำผาแด่นตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ห่างจากตัวจังหวัด 17 กม. ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3,000 ไร่ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

วัดถ้ำผาแด่น

ประวัติวัดถ้ำผาแด่น

วัดถ้ำผาแด่นตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3,000 ไร่ของเทือกเขาภูพาน ในพื้นที่ของบ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่มีความเป็นมานับร้อยปี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2483 โดยมีพระมหาเส็งเป็นผู้นำและด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน วัดถ้ำผาแด่นเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นสถานที่ที่เกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังหลายองค์ใช้เป็นที่ปฏิบัติกรรมฐานมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ในปี พ.ศ. 2550 พระอาจารย์ปกรณ์ กนฺตวีโร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดในขณะนั้นได้พัฒนาวัดแห่งนี้ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะเพื่อให้เข้าถึงผู้คนทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง



ภายในวัดประกอบด้วย ศาลาการเปรียญสร้างพ.ศ. 2532 กุฏิสงฆ์เป็นอาคารไม้ 5 หลัง อาคารมุงจาก 10 หลัง ศาลาบำเพ็ญกุศลสร้างด้วยไม้ 2 ปูชนียวัตถุมีพระพุทธรูปพระประธาน 4 องค์ หน้าตักกว้าง 50 นิ้ว สร้างพ.ศ. 2484

นอกจากนี้ภายในวัดถ้ำผาแด่น ยังมีแลนด์มาร์คสำคัญคือ ภาพแกะสลักหน้าผาหินบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในพระพุทธศาสนา ด้านบนประดิษฐานเจดีย์ก้อนหินสีทองขนาดใหญ่สื่อแทนยอดเขาพระสุเมรุที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ใกล้ๆ กันมีรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ที่ประชาชนมากราบไหว้สักการะ และถัดไปอีกนิดเป็นองค์พญานาคปรกขนาดใหญ่ซึ่งมีความงามสง่าน่าเกรงขามและนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ ใต้เศียรของพญานาคมีรูปปั้นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ ภายในวัดถ้ำผาแด่นยังมีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์คือศาลาไม้ที่ตัวเสานั้นก็ทำด้วยต้นไม้ทั้งต้น ทั้งสวยงาม สะดุดตา และขับให้บรรยากาศของวัดบนเทือกเขาภูพานแห่งนี้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นไปอีก

บริเวณรอบๆ วัดร่มรื่นด้วยต้นไม้และโขดหินขนาดใหญ่เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนา และมีจุดชมวิวธรรมชาติที่น่าสนใจหลายจุด มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดถ้ำผาแด่นอยู่ไม่ขาดสาย

วัดถ้ำผาแด่น

วัดถ้ำผาแด่น

วัดถ้ำผาแด่น

ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก | Facebook H R พาเที่ยว

ข้อมูลเพิ่มเติม





บทความที่เกี่ยวข้อง

พญาเต่างอย ตำนานความเชื่อศักดิ์สิทธิ์ให้โชคแก่ผู้ศรัทธา จังหวัดสกลนคร

พญาเต่างอย ตำนานความเชื่อศักดิ์สิทธิ์ให้โชคแก่ผู้ศรัทธา จังหวัดสกลนคร

พญาเต่างอย

พญาเต่างอย


พญาเต่างอย ถูกกล่าวขึ้นเมื่อราว 400 ปีก่อน โดยไทยได้ทำสงครามกับลาว คนลาวพ่ายแพ้จึงถูกกวาดต้อนมาอยู่ในประเทศไทย เมื่อเดินทางมาถึงลำน้ำพุง ซึ่งเป็นลำน้ำขนาดใหญ่ และมีเต่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก คนในสมัยก่อนเห็นว่าบริเวณนี้น่าจะมีพืชพันธุ์ธัญญาหารที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัย จึงได้ตั้งถิ่นฐานขึ้น โดยตั้งชื่อว่า “หมู่บ้านเต่างอย” ตามสถานที่พบเห็นเต่าที่กำลังลอยริมฝั่งแม่น้ำ หมู่บ้านแห่งนี้จึงมีสัญลักษณ์เป็น รูปเต่า และได้ตั้งชื่ออำเภอว่า เต่างอย



หลังจากนั้นชาวบ้านและทางราชการต้องการที่จะสร้างสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเต่างอยขึ้นมา จึงได้ให้ช่างปั้นจากศูนย์ฝึกศิลปาชีพบ้านกุดนาขามมาสร้างรูปปั้นเต่ายักษ์ไว้บริเวณสวนสาธารณะหลังที่ทำการอำเภอเต่างอย รูปปั้นพญาเต่างอยตั้งอยู่ในสระน้ำ ที่ล้อมรอบด้วยรูปปั้นพญานาค และเต่าบริวารขนาดเล็กหลายตัว ลักษณะสำคัญของพญาเต่างอยคือเป็นเต่าขนาดใหญ่ เกล็ดบนหลังรูปพระเกจิอาจารย์ประดับตกแต่ง บนหลังพญาเต่างอยประดับดอกบัวปั้น ในดอกบัวมีสร้อยทอง พระ ของขลังต่างๆ บรรจุไว้พร้อมฉาบปิดแน่นหนา โดยผู้ที่ใส่เครื่องรางของขลังเหล่านั้นเชื่อว่าจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วย และเชื่อว่าหากใครได้มาสักการะบูชาจะทำให้อายุยืนมีโชคมีลาภกลับไป จึงมีผู้เดินทางมากราบไหว้และขอโชคขอลาภกับพญาเต่างอยตลอด

พญาเต่างอย

  • ที่อยู่ : สวนสาธารณะและสวนสุขภาพ ตำบลเต่างอย อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/UisPPQFBEJn3TPUv5
  • เปิดให้เข้าชม : 07.00-19.00 น.

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครพนม www.facebook.com/pg/TATNakhonphanomFanpage/photos/?tab=album&album_id=1540425462683327


บทความที่เกี่ยวข้อง

พิพิธภัณฑ์สิรินธร สุสานไดโนเสาร์แห่งภูกุ้มข้าว จังหวัดกาฬสินธุ์

พิพิธภัณฑ์สิรินธร สุสานไดโนเสาร์แห่งภูกุ้มข้าว จังหวัดกาฬสินธุ์

พิพิธภัณฑ์สิรินธร


พิพิธภัณฑ์สิรินธรหรือชื่อเดิมคือ ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เดิมเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยไดโนเสาร์แห่งแรกในประเทศไทย โดยกรมทรัพยากรธรณีเริ่มดำเนินการจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติงานศึกษาวิจัย อนุรักษ์เก็บรวบรวมตัวอย่างอ้างอิงซากไดโนเสาร์และสัตว์ร่วมสมัยและนำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่แก่นักท่องเที่ยวในรูปของพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์



ในปี พ.ศ. 2537 คณะสำรวจธรณีวิทยาโดยนายวราวุธ สุธีธร ได้พบซากกระดูกไดโนเสาร์ที่เก็บไว้โดย พระครูวิจิตรสหัสคุณ เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ปัจจุบันมีสมณศักดิ์ในราชทินนามที่ พระเทพมงคลวชิรมุนี (หา สุภโร) ซึ่งเป็นบริเวณที่เป็นหลุมขุดค้น ณ ปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทอดพระเนตรซากกระดูกไดโนเสาร์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร”

พิพิธภัณฑ์สิรินธร

รูปภาพสวยๆ จาก Facebook/สายันต์- ก้อย เพชรรัตน์

ส่วนภายในอาคารนั้น จะจัดแสดงนิทรรศการ ต่างๆ มากมาย ทั้งนิทรรศการถาวรและนิทรรศการชั่วคราว โดยมีทั้งการจัดแสดงหุ่นจำลองไดโนเสาร์สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส และข้อมูลเกี่ยวกับธรณีวิทยาของประเทศไทยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น โซนจักรวาลและโลก โซนพาลีโอโซอิก โซนมหายุคมีโซโซอิค โซนวิถีชีวิตไดโนเสาร์ โซนมนุษย์ เป็นต้น

พิพิธภัณฑ์สิรินธร

รูปภาพสวยๆ จาก Facebook/สายันต์- ก้อย เพชรรัตน์

สุสานไดโนเสาร์แห่งภูกุ้มข้าว

รูปภาพสวยๆ จาก Facebook/สายันต์- ก้อย เพชรรัตน์

สุสานไดโนเสาร์แห่งภูกุ้มข้าว

รูปภาพสวยๆ จาก Facebook/สายันต์- ก้อย เพชรรัตน์

พิพิธภัณฑ์สิรินธร
  • เปิดให้บริการ วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09.30 – 16.30 น. และปิดให้บริการทุกวันจันทร์
  • ที่อยู่ : ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/E1qHAeUEJMpJc1D7A
  • เปิดให้เข้าชม : 09.00-17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/sirindhorn.museum

ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก  Facebook/สายันต์- ก้อย เพชรรัตน์




บทความที่เกี่ยวข้อง