การเพาะเลี้ยงหนอนนก เลี้ยงง่ายใช้พื้นที่น้อย
การเพาะเลี้ยงหนอนนก
หนอนนก เป็นหนอนที่มีโปรตีสูง จึงใช้เป็นอาหารในการเพาะเลี้ยงผลิตขยายมวนพิฆาต มวนเพชฌฆาตและไส้เดือนฝอยสไตน์เนอร์นีมา นอกจากนี้ยังมีผู้นิยมนำมาเป็นอาหารของนกชนิดต่าง ” รวมถึงปลาสวยงามด้วยหนอนนก เป็นตัวอ่อนของ “มอดรำข้าวสาลี” ซึ่งเป็นแมลงศัตรูข้าวสาลีในยุ้งฉาง เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเย็นและมีความชื้นสูง แต่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทยได้ มีผู้นิยมนำมาเพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้
วงจรชีวิตของหนอนนก
หนอนนกมีการเจริญเติบโตแบบ Complete metamorphosis มี 4 ระยะ คือ
- ระยะไข่ ตัวเต็มวัยวางไข่สีขาวขุ่น กลมรี ผิวเรียบติดอยู่ตามพื้น มีเศษอาหารปกคลุม อายุไข่ 7 วัน
- ระยะตัวอ่อน ตัวอ่อนลอกคราบ 13 ครั้ง เมื่อลอกคราบใหม่ๆ จะมีสีขาว แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล ตัวอ่อนมีอายุประมาณ 3 เดือน
- ระยะดักแด้ หลังจากหนอนลอกคราบครั้งสุดท้าย จะกลายเป็นดักแด้สีขาว ซึ่งจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ดักแด้มีอายุ 7 วัน
- ระยะตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัยเมื่อออกจากดักแด้ จะมีปีกสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีดำ เริ่มผสมพันธุ์เมื่ออายุ 6-7 วัน หลังจากนั้น 3-4 วัน ก็จะเริ่มวางไข่ ตัวเต็มวัยมีอายุประมาณ 60-80 วัน สามารถเก็บไข่ได้ถึง 11 ครั้ง
การเพาะเลี้ยงผลิตขยายหนอนนก
วัสดอุปกรณ์
- ภาชนะสำหรับใช้เลี้ยง ได้แก่ กล่องพลาสติกใส กะละมัง ถาด
- ตะแกรงตาถี่สำหรับร่อนหนอนเล็ก ตะแกรงตาขนาดมุ้งลวดสำหรับหนอนใหญ่ และตะกร้าสำหรับร่อน
- กระดาษสำหรับวางไข่
- รำข้าวสาลี สำหรับเลี้ยงตัวเต็มวัยให้วางไข่ และเลี้ยงหนอนเล็ก
- อาหารไก่เล็ก โดยธรรมชาติหนอนนกจะกินรำข้าวสาลีเป็นอาหาร แต่เนื่องจาก รำข้าวสาลีมีราคาแพงจึงใช้อาหารไก่เล็ก เลี้ยงในระยะที่เป็นตัวหนอ
- อาหารเสริม ได้แก่ ผักและผลม้ เช่น มะละกอดิบ แตงกวา เปลือกแตงโม เป็นต้น
- ชั้นวางเลี้ยง
- สถานที่เลี้ยง หรือห้องเลี้ยง ควรเป็นที่ที่สะอาด อากาสถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนจนเกินไป สามารถป้องกันหนู มด จิ้งจก นก อึ่งอ่าง กิ้งกำ จิ้งเหลน ไมให้เข้าไปกินหนอนได้
วิธีการเพาะเลี้ยง
- ก่อนทำการเลี้ยง ทำความสะอาดห้องเลี้ยง หากเป็นห้องที่สามารถปิดมิดชิดได้ ควรทำการรมห้องด้วยฟอร์มาลีนผสมด่างทับทิม อัตราส่วน ด่างทับทิม 10 กรัม ต่อ ฟอร์มาลีน 20 ซีซี ต่อพื้นที่ 5 ตารางเมตร รมทิ้งไว้ 3-4 คืน เนื่องจากฟอร์มาลีนเป็นสารอันตราย เมื่อผสมเสร็จแล้วจะกลายเป็นไอระเหย มีพิษต่อเยื่อบุจมูกและตา จึงควรรีบออกจากห้องทันทีที่ผสมรวมกัน
- นำหนอนนก มาเลี้ยงในกล่องหรือกะละมัง โดยเลี้ยงด้วยอาหารไก่ เมื่อหนอนกินอาหารไก่หมดแล้ว ใส่ผักหรือผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ให้หนอนกินข้าง หนอนกินอาหารจะถ่ายมูลออกมา ใช้ตะแกรงร่อนเอาหนอนออก หนอนจะติดบนตะแกรง ส่วนมูลหรือขี้หนอนจะลอดผ่านตะแกรงลงไป นำหนอนมาเลี้ยงในภาชนะใหม่และใส่อาหารไก่เพิ่ม และให้ผักหรือผลไม้เป็นอาหารเสริม หมั่นเลือกหนอนที่ตายออก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หนอนนกจะลอกคราบและโตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นดักแด้ ก่อนเข้าดักแด้ หนอนจะเริ่มหดสั้น ไม่กินอาหาร และ นอนนิ่งๆ
- เลือกดักแด้ออกมาใส่ในภาชนะใหม่ ไม่ต้องให้อาหาร เนื่องจากดักแด้ไม่กินอาหาร ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน ดักแด้จะมีสีเข้มขึ้น แล้วตัวเต็มวัยจะออกมาจากดักแด้
- แยกตัวเต็มวัยที่สมบูรณ์ไปเลี้ยงในภาชนะใหม่ที่รองพื้นด้วยกระดาษขาว (หรือไม่รองก็ได้) ใส่รำข้าวสาลีก่อนใส่ตัวเต็มวัย ให้ผักผลไม้บ้าง เพื่อเป็นอาหารเสริมและทดแทนน้ำ
- เลี้ยงตัวเต็มวัยประมาณ 9-10 วัน ตัวเต็มวัยจะเริ่มวางไข่บนกระดาษ ร่อนเอาตัวเต็มวัยออก หากให้วางไข่บนกระดาษ ให้เก็บรวบรวมแผ่นไข่มาวางในภาชนะเป็นชั้นๆ โรยด้วยรำข้าวสาลีที่ร่อนเอาตัวเต็มวัยออกแล้ว หากให้วางไข่บนถาด ให้เทรำข้าวสาลีพร้อมตัวเต็มวัยออกมาร่อนตัวเต็มวัย แล้วเทรำข้าวสาลีกลับลงในถาดเดิมที่มีไข่ติดอยู่
ศัตรูของหนอนนก
ศัตรูพืชของหนอนนก ได้แก่ มอดแป้ง มด แมลงสาบ ที่อาจจะติดมากับอาหาร ดังนั้น ควรนำอาหารไปแช่แข็งประมาณ 7 วัน หรืออบอาหารที่อุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติก่อนนำมาเป็นอาหารหนอนนก ศัตรูอื่นๆ ได้แก่ จิ้งจก นก และหนู
ต้นทุนการเลี้ยงหนอนนก
การผลิตหนอนนก 1 กิโลกรัมใช้ต้นทุนประมาณ 70 บาท ใช้เวลาการผลิต 8-9 สัปดาห์ ซึ่งปัจจุบันหนอนนกราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท (ขึ้นอยู่กับตลาด)
หากท่านใดสนใจการเลี้ยงขยายพันธุ์ “หนอนนก” สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร โทรศัพท์ 0 2579 7813-4 ในวัน เวลาราชการ
บทความอื่นที่น่าสนใจ