การควบคุมแมลงวันผลไม้ โดยวิธีผสมผสาน
แมลงวันผลไม้ และผักหลายชนิด นอกจากจะทำให้ผลผลิตเน่าเสียหายแล้ว แมลงวันผลไม้เป็นแมลงศัตรูพืชที่สำคัญของไม้ผลยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ส่งออกเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าตรวจพบแมลงวันผลไม้ติดไปกับผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิดจากประเทศไทย จนบางประเทศต้องระงับการนำเข้า การใช้สารเคมีฉีดพ่น เพื่อป้องกันกำจัด นอกจากสารเคมีตกค้างในผลผลิตที่ส่งไปจำหน่ายทั้งภายใน และต่างประเทศแล้วยังเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และสภาพแวดล้อมอีกด้วย
ลักษณะการทำลายของแมลงวันผลไม้
ตัวเมียจะวางไข่โดยใช้อวัยวะวางไข่แหลมๆอยู่ปลายก้น (Ovipositor) แทงเข้าไปในเนื้อผลไม้ เพื่อวางไข่ โดยวางไข่ทั้งในระยะผลอ่อนและในระยะผลแก่ใกล้สุก เมื่อไข่ฟักเป็นตัวหนอนจะพอดีกับระยะที่ผลไม้นั้นสุกและจะอาศัยกัดกินอยู่ภายในผลนั้นทำให้ผลไม้เน่าเสี่ยและร่วงหล่นลงสู่พื้น จากนั้นตัวหนอนจะออกจากผลไม้ที่ร่วงหล่น และเข้าดักแด้ในดินและฟักออกเป็นตัวเต็มวัยการทำลายในระยะเริ่มแรกจะสังเกตได้ยากอาจพบอาการช้ำบริเวณใต้ผิวเปลือก เมื่อหนอนโตขึ้นจะทำให้ผลเน่าเละและมีน้ำไหลเยิ้มออกทางรูที่หนอนเจาะออกมา เพื่อเข้าดักแด้ นอกจากนี้ผลไม้ที่ถูกทำลายมักจะมีโรคและแมลงอื่นๆ เข้าทำลายซ้ำฃ
วงจรชีวิตแมลงวันผลไม้
แมลงวันผลไม้ที่สำคัญของประเทศไทย
การแพร่กระจาย : ทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือ
พบมากใน : มะม่วง ฝรั่ง ชมพู่ พุทรา น้อยหน่า ละมุด
Bactrocera dorsalis (Hendel) ภาพ : University of Hawaii at Manoa |
|
Bactrocera correcta (Bezzi) ภาพ : สุขสม ชินวินิจกุล |
|
Bactrocera cucurbitae (Coquillett) ภาพ : สุขสม ชินวินิจกุล การแพร่กระจาย : ทุกภาคของประเทศไทย พบมากใน : พืชผัก และพืชตระกูลแตง เช่น บวบเหลี่ยมมะเขือเทศ แตงโม |
|
Bactrocera tau (Walker) ภาพ : University of Hawaii at Manoa การแพร่กระจาย : ทุกภาคของประเทศไทย พบมากใน : บวบเหลี่ยม มะระขึ้นก ตำลึง |
Bactrocera latifrons (Hendel) ภาพ : สัญญาณี ศรีคชา การแพร่กระจาย : ทุกภาคของประเทศไทย พบมากใน : พริกชี้ฟ้า มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะแว้งเครือ ฯลฯ |
|
Bactrocera umbrosa (Fabricius) ภาพ : สัญญาณี ศรีคชา การแพร่กระจาย : ทุกภาคของประเทศไทย พบมากใน : ขนุน จำปาดะ |
|
Bactrocera carambolae (Drew&Hancock) ภาพ : สุขสม ชินวินิจกุล การแพร่กระจาย : ภาคใต้และภาคกลางตอนล่าง พบมากใน : ฝรั่ง ขนุน กระท้อน ละมุด มะม่วง มะเฟือง ฯลฯ |
|
Bactrocera zonata (Saunders) ภาพ : Mahfuza Khan การแพร่กระจาย : ภาคเหนือและภาคกลาง พบมากใน : มะม่วง มะตูม ท้อ,เซอรี่ |
การควบคุมแมลงวันผลไม้ โดยวิธีผสมผสาน
เป็นการควบคุมศัตรูพืชตั้งแต่ 2 วิธีขึ้นไปโดยใช้ร่วมกันและแต่ละกรรมวิธีต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน จึงสามารถ ควบคุม หรือป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
- การห่อผล ควรห่อผลด้วยถุงพลาสติกหรือถุงกระดาษโดยห่อให้มิดชิด หากเป็นถุงพลาสติกควรตัดมุมที่กันถุงเพื่อระบายน้ำโดยเริ่มห่อตั้งแต่ผลมีขนาดเล็ก ความแตกต่างขึ้นอยู่กับชนิดของพืช เช่น มะม่วง เริ่มห่อเมื่อผลมะม่วงอายุ 8-9 สัปดาห์ ในชมพู่เริ่มห่อเมื่อผลมีอายุ 2 สัปดาห์หลังไหมร่วงและไว้ผล 3-4 ผลต่อช่อ
- การใช้สารล่อ
- การใช้เมธิลยูจินอล (Methy EugenoU เป็นสารล่อเพศผู้ อัตราการใช้เมธิลยูจินอล 4 ส่วน ผสมมาลาไธออน 83% อีซี 1 ส่วน หยดลงบนก้อนสำลี 3-5 หยด นำไปแขวนในกับดัก จากนั้นนำกับดักไปแขวนในทรงพุ่มสูงประมาณ1..5 เมตร
- การใช้เหยื่อโปรตีน ซึ่งสามารถดึงดูดได้ทั้งแมลงวันผลไม้เพศผู้และเพศเมีย โดยใช้เหยื่อโปรตีนออโตไลเสท (Protein autolysate) หรือไฮโดรไลเซท (Protein hydrolysate) อัตรา 200 มิลลิสิตร ผสมสารฆ่าแมลงมาลาไธออน 57% หรือ 83% อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 5 ลิตร พ่นเป็นจุดๆ ต้นละ 4 จุด พ่นต้นเว้นต้นทุก 7 วัน และพ่นในเวลาเข้าตรู่ซึ่งเป็นช่วงที่แมลงวันผลไม้ออกมาหาอาหาร เริ่มพ่นครั้งแรกหลังห่อผลเสร็จ 1 สัปดาห์และพ่นต่อเนื่อง จนเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จ
-
การทำความสะอาดแปลงปลูก โดยเก็บผลมะม่วงที่ถูกแมลงวันผลไม้จากต้น หรือผลที่ร่วงหล่นออกจากแปลงโดยนำไปทำน้ำหมัก, ฝังกลบหรือเผาเพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์การฝังกลบต้องให้ลึกมากกว่า15 เซนติเมตร
-
การกำจัดพืชอาศัย การตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง เพื่อปรับสภาพแวดล้อมไม่เหมาะเป็นที่พักอาศัย และการแพร่ระบาดของแมลงวันผลไม้
-
การใช้แมลงศัตรูธรรมชาติ การปล่อยแตนเบียนหนอนแมลงวันผลไม้ (Diachasmimorpha longicaudata) เพื่อควบคุมประชากรแมลงวันผลไม้ในธรรมชาติ ซึ่งแตนเบียนเพศเมียจะวางไข่ในตัวหนอนแมลงวันผลไม้ที่อาศัยอยู่ภายในผลไม้ ตัวหนอนของแตนเบียนจะเจริญเติบโต และอาศัยกัดกินอยู่ภายในลำตัวของหนอนแมลงวันผลไม้ ทำให้หนอนแมลงวันผลไม้ตายในที่สุด เมื่อปล่อยติดต่อกันทำให้ประชากรแมลงวันผลไม้ในธรรมชาติลตลง
-
การใช้แมลงวันผลไม้เป็นหมัน การกำจัดแมลงวันผลไม้ให้หมดไปจากพื้นที่ที่ต้องการโดยเลี้ยงแมลงวันผลไม้ให้มีปริมาณมาก และนำแมลงเหล่านั้นไปฉายด้วยรังสีแกมมาเพื่อให้เป็นหมัน จากนั้นจึงนำแมลงที่เป็นหมันนี้ ไปปล่อยในพื้นที่กว้างหรือครอบคลุมพื้นที่เพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับแมลงวันผลไม้ในธรรมชาติทำให้ไม่มีลูก เมื่อปล่อยติดต่อกันทำให้ประชากรแมลงวันผลไม้ในธรรมชาติลดลงหรือจนหมดไปในที่สุด
เอกสารอ้างอิง :
- กรมส่งเสริมการเกษตร (ม.ป.ป.) แมลงวันผลไม้และการควบคุม.
- สายชล แสงแก้ว และคณะ. (2557). การใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสานเพื่อควบคุมแมลงวัน ผลไม้มะม่วง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา. แก่นเกษตร, 42 (2),417- 421.
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ www.doae.go.th